ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio กีเยร์โม เดล โตโร ผู้กำกับผู้ครอบครองรางวัลออสการ์ และก็มาร์ก กุสตาฟสัน

ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio ตำนานที่แวดวงสต็อปโมชันที่มีรางวัลยืนยัน จะนำนิทานหุ่นเชิดไม้สุดคลาสสิกของคาร์โล คอลโลดีมาสร้างใหม่ พร้อมสร้างความอัศจรรย์สู่การเสี่ยงภัยอันน่าทึ่งของพิน็อกคิโอที่เหนือจินตนาการรวมทั้งเปิดเผยให้มองเห็นพลังที่ความรักที่หล่อเลี้ยงชีวิต

เกิดขึ้นคราวแรกจากวรรณกรรมเรื่อง Adventures of Pinocchio (1883) ของผู้เขียนชาวอิตาลี Carlo Collodi รายละเอียดเล่าถึง “เจปเปตโต (David Bradley)” ช่างไม้ที่สูญเสียลูกชาย เขาตกลงใจสร้างหุ่นไม้ขึ้นมา แล้วก็เรื่องน่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อหุ่นไม้ตัวนั้นมีชีวิตขึ้นมา เขาตั้งชื่อหุ่นไม้ตัวนั้นว่า

“พิน็อกคิโอ (Gregory Mann)”ความรู้สึกแรกข้างหลังมองจบหมายถึงสัมผัสได้ว่าได้โอกาสเข้าชิงออสการ์สาขาแอนิเมชั่นพอควร มั่นใจว่าตัวพล็อตหลัก เป็นอะไรที่ทุกคนเพียงพอจะรู้อยู่แล้ว ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio  แต่ว่าในส่วนบทภาพยนตร์และก็การตีความหมาย แอนิเมชั่นในเวอร์ชั่นนี้ ทำเป็นน่าประทับใจทีเดียวจุดที่ดีเยี่ยมที่สุด ขอชูให้เกิดเรื่อง “แก่นภาพยนตร์อันแข็งแรง” สเกลรายละเอียด ความหนักในพาร์ทดราม่า สารที่หนังสื่อออกมา อยู่ในระดับเดียวกับภาพยนตร์ดราม่าคนแสดง จัดว่า บทหนังมีส่วนประกอบที่แข็งแรง ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ยอดเยี่ยม

โดยยิ่งไปกว่านั้นใจความสำคัญเรื่อง ความเจ็บและก็แรงกระตุ้นสำหรับในการสร้างหุ่นไม้ของเจปเปตโต ความเหงาและก็การเสี่ยงภัยของพิน็อกคิโอเพื่อหาแนวทางสู่การเป็นเด็กผู้ชายที่เป็นที่ยอมรับของทุกคน จิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่จำเป็นต้องได้รับการทดลอง การตามกล่าวโทษหมายรวมทั้งค่าของชีวิตผ่านการเวียนกำเนิด รวมทั้งสายสัมพันธ์ความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับลูก…

หลักสำคัญกลุ่มนี้ หนังทำเป็นลึกซึ้งรวมทั้งเสียใจในหลายๆฉาก อย่างซีนที่มีเพลง Ciao Papa กับซีนด้านหลังเรื่อง ทำเอาน้ำตาซึมได้เลย (เป็นหนังวันบิดาได้สบายรวมทั้งจะว่าไปการเล่าถึงความเชื่อมโยงอันเหนียวแน่นระหว่างบิดากับลูก ยังสอดคล้องกับวัฒนธรรมอิตาเลียน (ตามเนื้อเรื่องหนัง) อีกด้วยที่ย้ำการให้ความใส่ใจกับครอบครัว ในหนังมีการแปลความ โดยเพิ่มแบ็คเกรียวกราวน์เรื่องให้อยู่ในอิตาลีสมัยฟาสต์สิส ที่ตรงนี้หนังเปรียบเทียบ – อุปมาอุปไมยได้น่าดึงดูด

ตัวเรื่องเปรียบเทียบการเชิดหุ่นในหลายประเด็น ได้แก่ Count Volpe เจ้าภาพ Carnival หาทางเชิดหุ่นไม้อย่างพิน็อกคิโอ เพื่อฉกฉวยเงิน ในตอนที่หัวหน้าลัทธิฟาสซิสต์อย่างมุสโสลินี ก็เชิดมนุษย์ เพื่อคุมคนให้ไปทำศึก ผ่านนักแสดง Podestà ที่รอคุมการกระทำของทุกคนในเมืองเรียกว่า ฉลาดหลักแหลมสำหรับการพ่วงข้อความสำคัญต้านทานการรบ… ไม่รู้จักว่า เพศผู้ควบคุมอุตสาหะส่งนัยยะถึงหลักสำคัญการรบรัสเซีย – ยูเครนด้วยอยู่หรือไม่

นอกเหนือจากนี้ ที่มองเห็น ก็คือการใช้ Symbol ต่างๆเพื่อภาษาภาพยนตร์งามขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกสน ไม้กางเขน ซึ่งนัยยะที่ใส่เข้ามาก็ทำให้ภาพยนตร์ประเด็นนี้สวยขึ้นจริงๆ
การผลิตคาแรคเตอร์ของผู้แสดง แต่ละตัวมองสมจริงสมจังและก็น่าจำ ตัวอย่างเช่น พิน็อกคิโอ ที่สวยไม่รู้เดียงสา แต่ว่าก็ซนในขณะเดียวกัน, เจปเปตโต บิดาที่ปล่อยวางการสิ้นไปมิได้ รวมทั้งคาดหมายให้พิน็อกคิโอ เป็นเด็กที่สวยอย่างที่ตนเองวาดวิมานในอากาศไว้

นักแสดงอื่นๆยกตัวอย่างเช่น จิ้งหรีด ที่มีหน้าที่สอนพิน็อกคิโอให้เป็นเด็กดี, Count Volpe ผู้ครอบครองแผนกแล้วก็ Spazzatura ลิงประจำภาควิชา, Podesta แล้วก็ลูกชาย… นักแสดงแต่ละตัวมีหน้าที่กับเรื่อง จำเป็นต้องดูว่า เกลี่ยบทผู้แสดงก้าวหน้า

– งาน Stop Motion จัดว่า สวยประณีตและวิจิตรบรรจง มองเป็นอีกต้นเหตุที่ช่วยส่งหนังให้ไปถึงออสการ์ ขั้นต่ำงานแอนิเมชั่นที่ออกมาก็ทำให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความคราวฟต์ มีแนวทางการสร้างที่แปลก ละเมียด ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเป็นงานศิลปะกว่าแอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆอีกส่วนที่น่ากล่าวชมเชย ก็ประเด็นการจัดแสงสว่างในเรื่อง ทำเป็นละมุน ประณีตบรรจง น่าประทับใจ

– ลายเซ็นภาพยนตร์ ยังคงมีกลิ่นแบบ “กีเยร์โม เดล โทโร” ดังเช่น โทนเรื่องแฟนตาซีที่มีความดาร์คผสม

แบบนักแสดงหลอนๆ(นางสวรรค์ยังมองหลอนสไตล์ทูตสวรรค์ ความดราม่า การศึก และก็การสิ้นไปในเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าจะเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีสำหรับเด็ก ดนตรีประกอบกระจายๆเชิญฝันเสมือนเพลงสำหรับกล่อมทารก ผสมกับฉากหวาดเสียวบางส่วน

หลายๆซีน พาให้ระลึกถึงความรู้สึกตอนมอง Pan’s Labyrinth (2006) ที่เป็นงานเก่าของกีเยร์โม อย่างคอนเซปต์เกี่ยวกับการรับรองตนเองของนักแสดงและก็ความเป็นเทพนิยาย สิ่งกลุ่มนี้ซ่อนเร้นกลิ่นของกีเยร์โมไว้เด่นชัดงานดนตรีประกอบภาพยนตร์ ก็จัดว่าน่าประทับใจ หลายเพลงมีท่วงทำนองที่เนื่องจากสวยด้วยเสียงเครื่องลมไม้ (Woodwind Instruments)… ฟังไปฟังมาก็คุ้นๆ

รู้สึกมันมองเชิญชวนฝันเสมือน Shape of Water (2020) สรุปว่า คนนิพนธ์เป็นผู้เดียวกัน Alexandre Desplatหากว่า Pinocchio ในเวอร์ชั่นของกีเยร์โม เดล โตโร จะมิได้แปลกประหลาดกระทั่งฉีกจากภาพเดิม รวมทั้งบางทีอาจมิได้เป็นแอนิเมชั่นที่มองง่ายจนกระทั่งเหมาะสมกับทุกคน แม้กระนั้นน่าชมที่เขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราว Pinocchio

ได้ออกจะบริบูรณ์ มองสมจริงสมจัง มีความยุติธรรมชาติ รวมทั้งมีความเป็นภาพยนตร์(Cinematic) อีกทั้งวางพล็อตเรื่องได้อย่างแข็งแรง นอกเหนือจากนี้ งาน Stop Motion ที่ออกมาก็ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับ Pinocchio ในเวอร์ชั่นนี้เจริญ มองเรียบร้อยงดงามรวมทั้งสวยสดงดงาม

เพราะฉะนั้นก็ขอเสนอแนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่า ตัวแอนิเมชั่นคงจะไปไกลถึงชิงออสการ์สาขาแอนิเมชั่นเหมาะสมที่สุด ก็เลยไม่ต้องการให้พลาดแอนิเมชั่นดีๆกัน… ผู้ใดกันที่พึงพอใจรับดูได้บน Netflix !ไม่รู้เรื่องเช่นกันว่าพวกเราจำต้องดูหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของหุ่นไม้ที่ต้องการเป็นคนนี้ไปอีกกี่เวอร์ชัน แม้กระนั้นถ้าหากยังไม่เบื่อจะรับดูมันไปซะก่อน ก็คงจะได้มองกันอีกหลายหนแน่ๆแต่ละคนต่างก็สร้าง พิน็อกคิโอ หุ่นไม้จมูกยาวกันออกไปในวิถีทางของตนเอง

เหมือนกับเวอร์ชันนี้ ‘Guillermo del Toro’s Pinocchio’ ชื่อก็บอกชัดแล้วล่ะครับผมว่าสำเร็จงานที่กลั่นมาจากความนึกคิดของ กีเยร์โม เดล โตโรชายร่างอวบหนวดเครายาวพะรุงพะรังคนนี้ ประดิษฐ์ผลงานที่น่าจำมาเป็นอย่างมาก ทั้งยังผลงานที่ผู้คนโดยมากไม่สนใจรวมทั้งงานฟอร์มยักษ์ที่เอ่ยชื่อทุกคนจำเป็นต้องร้องอ้อ ขอยกตัวอย่างกันสักหน่อย อย่าง ‘Pan’s Labyrinth’, ‘Pacific Rim’, ‘Crimson Peak’,

‘The Shape of Water’ และก็ ‘Nightmare Alley’ รวมทั้งตู้หลอนผลงานก่อนหน้าปัจจุบัน ‘Cabinet of Curiosities’ ด้วยชูเอาคำโปรยปรายที่อยู่ในแอปของเน็ตฟลิกซ์มาวางไว้ที่ตรงนี้ “นิทานสต็อปโมชั่นแนวมิวสิคัล

ที่มีเบื้องหลังเป็นประเทศอิตาลีในสมัยการรบ มีเพลงบัลลาดนุ่มนวลอย่าง ‘Ciao Papa’ ซึ่งนับสำเร็จงานแรกในฐานะนักแต่งเพลงของผู้ผลิต กีเยร์โม เดล โตโร” นัยว่าแทบจะไม่ต้องเล่าขยายอะไรเพิ่มแล้วล่ะมั้ง เพราะเหตุว่าเรื่องราวมันคืออะไรก็คงรู้กันหมดแล้ว แต่ว่าถ้าหากผู้ใดกันแน่ยังไม่ทราบ ผมจะทดลองเล่าให้อ่านกันนี้

แรกเลย มีช่างไม้นักคิดค้นอยู่คนหนึ่ง เขาเป็น เจ็พเพตโต (David Bradley จากหนัง ‘The World’s End’ แล้วก็ซีรีส์ ‘Game of Thrones’) ที่มีลูกชายอย่าง คาร์โล ที่เขารักมากมายแต่ว่าจำเป็นต้องสูญเสียไปในขณะที่เขาพึ่งรู้จักกับโลกนี้ได้เพียงแค่ 10 ปี ในระหว่างความเศร้าโศกนั้น

เขาก็สร้างหุ่นไม้ตัวหนึ่งขึ้นมา หวังให้มันเป็นผู้แทนของลูกชายที่เสียไป ปาฏิหาริย์ของเทพธิดาพาให้หุ่นมีชีวิตพร้อมทั้งชื่อ พิน็อกคิโอ (Gregory Mann จากซีรีส์ ‘Victoria’) เด็กผู้ชายที่ร่างกายยังเป็นไม้สน คนที่พึ่งเริ่มชีวิตเหมือนมนุษย์แล้วก็มีจิ้งหรีดสีน้ำเงิน

คริกเก็ต (Ewan McGregor จากหนัง ‘Doctor Sleep’ แล้วก็ซีรีส์ ‘Obi-Wan Kenobi’) รอชี้นำทางรวมทั้งเพราะเหตุว่าความไร้เดียงสานี่แหละที่ชักนำเขาไปพบกับ เคาน์โอ้อวดลเป (Christoph Waltz) ผู้ครอบครองคณะนักแสดงเร่ ทั้งยังช่วงนั้น เขาอยู่ในอิตาลีที่กำลังอยู่ในตอนการรบ ทำให้หุ่นไม้ที่ต้องการแปลงเป็นคนจำเป็นต้องทำความเข้าใจชีวิตที่ต่อเนื่องกันกับการทหารด้วย แล้วก็นี่เป็น การเสี่ยงอันตรายอีกรอบของหุ่นไม้ที่ทุกคนรู้จักดี… พิน็อกคิโอ

รีวิวหนัง ‘พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยเสี่ยงอันตราย โดยกีเยร์โม เดล​ โตโร’เป็นเลิศความรู้สึกระหว่างที่ได้มองก็คือ นี่แหละ ไอเดียของการผลิตพิน็อกคิโอที่ควรจะเป็น มันควรจะสร้างออกมาในลักษณะแอนิเมชัน เนื่องจากมันอีกทั้งมีความเป็นนิทาน ทั้งที่ยังไม่ตายเรื่องราวที่มีความเป็นเด็ก อีกทั้งใส่เรื่องราวเชิงแฟนตาซีเข้าไปได้โดยไม่ทราบสึกกระโดดหรือแตกต่างอะไร แถมเวอร์ชันนี้ก็ค่อนจะหนักกว่าการเป็นหนังสำหรับเด็กอยู่นิดเดียว

เวอร์ชันนี้จะให้พื้นที่กับลูกชายตัวจริงของช่างไม้อย่างคาร์ปลาโลมากหน่อย เพื่อได้มองเห็นถึงความสัมพันธ์ที่มีระหว่างบิดากับลูก ก่อนที่จะพาผู้ชมมาเจอกับหุ่นไม้พิน็อกคิโอตัวนำของเรื่อง หนังออกจะดำเนินเรื่องเร็วและไม่ค่อยจะพักผ่อนสักเท่าไหร่ พร้อมด้วยการใส่ติดอยู่แรกเตอร์ที่วางแบบมาให้แปลกแตกต่างกันสิ่งที่ยังคงอยู่

ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นกิมไม่กของการพูดพูดเท็จของหุ่นไม้ที่จมูกของเขาจะยืดยาวขึ้น

รวมทั้งเขาจำเป็นต้องใช้มันให้มีประโยชน์ สิ่งที่พอใจ สิ่งแรกก็อาจเป็นงานภาพที่ทำมาได้อย่างพิถีพิถันละออ วางแบบหุ่นไม้พิน็อกคิโอออกมาได้มองเป็นเดลโตโร เหมือนกันกับเหล่าเทพธิดาทั้งหลายแหล่ ดูหนัง Guillermo del Toro s Pinocchio อีกส่วนก็คือ อ้างอิงนิยายที่ Carlo Collodi เขียนเอาไว้ ยัดเยียดข้อหาดาร์มายากลงไปพอสมควร วางกับพื้นข้างหลังเป็นอิตาลียุคการทำศึก พิงควรจะไปถึง เบนิโต มุสโสลินี

ก็ยังเลิศวิไลบรรเจิดในโลกภาพยนตร์มากมายเลยจริงๆมั่นใจว่าทุกคนก็คงจะรู้จักดีกับเรื่องราวเทพนิยายบทนี้ดีอยู่แล้ว ร้อยเรียงจากนิทานสุดคลาสสิกของ การ์โล กอลโลดี กับ หุ่นกระบอกไม้ที่มีชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ เพื่อมาซ่อมบำรุงแล้วก็เพิ่มเติมเพิ่มเติมหัวใจของช่างแกะสลักวัยแก่ที่ได้นำพาทุกคนไปเผชิญภัยในโลกที่แสนดื้อรวมทั้งท้าของพิน็อคคิโอ ที่อยากได้สืบหาโลกใบใหม่กับสถานที่ที่เขายังไม่เคยได้ทราบจะมาก่อน

อาจจำต้องยอมรับสารภาพตรงๆว่าหนังเวอร์ชั่นก่อนทำเอาไว้ออกจะขยาดพอเหมาะพอควร ก็เลยเป็นเหตุทำให้ Guillermo del Toro’s Pinocchio ฉบับนี้เปิดดูด้วยการก่อกำแพงเป็นเกราะกำบังเอาไว้ดกระดับหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ แต่ก็ทดลองเปิดใจมองอย่างถึงที่สุด ก็พบว่าเวอร์ชั่นนี้ช่างสวยสดงดงามมากกว่าฉบับไลฟ์แอคชั่นของดิสนีย์

ที่เคยทำเอาไว้อยู่หลายขุม แค่นอนมองเคล็ดลับงานสร้างแบบสตอปโมชั่นก็เพลิดเพลินก็ดีแล้วบางครั้งอาจจะจำเป็นต้องติดอยู่ระวิสัยทัศน์และก็ลีลาท่าทางขั้นเทวดาของ กีเยร์โม เดล โตโร โดยแท้จริง แม้ว่าจะเป็นงานคลาสสิกที่ทุกคนคงจะรู้จักดีกันอย่างดีเยี่ยมแล้ว แต่ว่าเมื่อมันมาอยู่ในมือของนักสร้างที่ถูกคน สรรค์สร้างออกมาได้ลงล็อกรวมทั้งถูกจังหวะ มันก็ย่อมทำให้แนวทางออกมาได้อย่างแช่มชื่นดีนัก แน่ๆว่าหนังยังร้อยเรียงเรื่องราวบนรากฐานโครงงานเริ่มแรก แม้กระนั้นก็มีการขยายแล้วก็แปลความหมายให้ออกมาแปลกใหม่จากเดิม เป็นกิมไม่กที่ทำให้หนังมีความสดใหม่ขึ้นมาได้น้อย

ใส่หัวข้อการเมืองการสู้รบเข้าไปเสริมกับการค้นหาตัวตน ที่ออกมาในแนวทางที่น่าดึงดูดได้ดิบได้ดีรวมทั้งแน่ๆว่าไฮไลต์ของหนังหัวข้อนี้ก็ถือส่วนประกอบงานสร้างที่จะต้องยกนิ้วให้ทั้งผอง 10 นิ้วไปเลย กีเยร์โม เดล โตโร ก็ยังคงไม่ทิ้งลีลาท่าทางจัดจ้าในความเป็นมือโปรสำหรับการสร้างงานสตอปโมชั่นที่เต็มไปด้วยเนื้อหาแล้วก็เสน่ห์ในแบบตนเอง และก็พวกเราชอบเพลิดเพลินเจริญใจบ่อยๆที่ชอบได้มองเห็นเบื้องหน้าเบื้องหลังงานสร้างในฉบับของเขา รวมทั้งยิ่งทำให้มีความรู้สึกตลึงตลอด กับการเห็นว่าแต่ว่าละฉากที่ออกมานั้นจะต้องผ่านกรรมวิธีบ่อยๆจำนวนกี่ครั้ง

งานสตอปโมชั่นในหนัง Guillermo del Toro’s Pinocchio ยังเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ และก็ลายเล้นในแบบของผู้กำกับท่านนี้โดยแท้จริง งานสร้างแต่ละช็อตออกจะละเอียด หนังชนิด Biography ชีวิตจริง เมื่อมาเพิ่มเติมกับการจัดลำดับภาพแล้วก็ใช้แสงสีมาเสริมเข้าด้วยกัน ยิ่งช่วยยกฐานะให้กับหนังได้อย่างดีเยี่ยม เปลี่ยนออกมาเป็นงานภาพงามๆที่น่าประทับใจ แล้วก็เป็นหนังที่มองได้เพลิดเพลินดีไปตลอดทั้งเรื่องแต่ว่าก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ Pinocchio

เป็นวอยซ์ทาเลนท์ที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับหนังประเด็นนี้ได้อย่างดีเยี่ยมอย่างเดียวกันสรุปว่าโดยสรุปแล้วนั้นเป็นหนังพิน็อคคิโอเวอร์ชั่นใหม่ ที่เต็มไปด้วยไอเดียที่ไม่เหมือนกันกับเดิมอย่างยอดเยี่ยมแท้ การแปลความใหม่บางทีก็อาจจะเป็นความเสี่ยงแม้กระนั้นในความเก่งกล้าเสี่ยงของหนังประเด็นนี้ นับว่านำไปสุ่แนวทางที่น่าพึงพอใจ งานสร้างในต้นแบบสตอปโมชั่นของหนังประเด็นนี้เป็นเสน่ห์โดยแท้จริงของหนังหัวข้อนี้ ความละเอียดลออในงานสร้างเต็มไปด้วยเส่นห์

หรือเด็กเองก็อาจจะสนุกสนานกับประเด็นนี้แน่นอนแม้ว่าจะมีหลายฉากที่ออกแนวรังแกเหี้ยมโหดอำมหิตเด็กพอเหมาะพอควร แม้กระนั้นสำหรับผู้ชมที่รู้จักหรือเคยมองหัวข้อนี้มาก่อนแล้วหลายรอบ ufabetwin666  หลายเวอร์ชั่น ย่อมมุ่งหวังการแปลความหมายใหม่ความต่าง ซึ่งจริงๆเพศผู้ดูแลเองก็กล่าวว่าแปลความหมายเล่าให้เสมือนเป็นการเกิดของนักแสดงนี้ใหม่ แต่ว่าคนเขียนเองแทบจะไม่เห็นเลยว่ามันมีการเล่าหรือตีความหมายใหม่อะไรขนาดนั้นจริงๆครับผม เพราะเหตุว่าเส้นเรื่องก็ยังเป็นแบบเดิมเป็น คนสร้างพิน็อกคิโอมีลูกชายตายไป เศร้าใจมากมายเลยสร้างพิน็อกคิโอขึ้นมา นางสวรรค์ก็มาใส่ชีวิตให้ พิน็อกคิโอมีชีวิตมาก็เป็นเด็กซุกซน